หนี้เรื่องใหญ่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน

Last updated: 10 พ.ค. 2563  |  783 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หนี้เรื่องใหญ่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน

หนี้เรื่องใหญ่ ที่โรงเรียนไม่เคยสอน

ยังมีคนอีกจำนวนมากที่แยกไม่ออกว่า

หนี้จน กับ หนี้รวย นั้นต่างกันอย่างไร

สิบกว่าปีก่อน ผมเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมของขวัญรับปริญญาเป็นหนี้หลักสิบล้านจากธุรกิจของครอบครัว

ก่อนหน้านี้ที่จะเรียนจบ ผมแทบไม่เคยรู้เลยว่าธุรกิจที่บ้านมีปัญหาเพราะตั้งแต่เล็กจนโต ผมถูกสอนให้มีหน้าที่เรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว ตัวผมก็เรียนอย่างเดียวจริงๆ ไม่เคยสนใจ ความเป็นใดๆในบ้านเลย

จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่มาคุยด้วยแล้วบอกว่า ธุรกิจของเราขาดทุนต่อเนื่องมานาน และกำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก เงินจ่ายออก มากกว่าเงินเข้าทุกเดือน แม่ต้องหาเงินมาใช้หนี้เดือนละ 250,000 บาท ทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ

ใครเคยผ่านยุคปี 2540 มาคงจำกันได้ว่า สมัยนั้นอัตราดอกเบี้ยเงินดกู้แพงขนาดไหน ยิ่งเป็นดอกเบี้ยนอกระบบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง จ่ายกันไปไม่มีวันจบสิ้น ชนิดที่ไม่ต้องลืมตาอ้าปากกันเลยทีเดียว

ทันทีที่เรียนจบ ผมได้งานเป็นวิศวกรบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีรายได้เดือนละหมื่นกว่าบาท แต่ต้องวิ่งหาเงินเพื่อช่วยส่งหนี้ที่บ้าน ผมทำงานวันเสาร์ อาทิตย์เสริม ด้วยการรับค่าจ้างเป็นวิศวกรที่ปรึกษาให้กับโรงงานขนาดเล็ก รวมถึงธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง แต่นั้นก็ยังไม่พอที่จะจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนของที่บ้านได้อยู่ดี

ทำงานไปได้สักพัก ผมเริ่มมีรายได้สูงขึ้น และกำลังที่จะก่อหนี้ได้ สุดท้ายผมพาตัวเองเข้าสู่กับดักหนี้ ด้วยการกู้สินเชื่อ่สวนบุคคลเพื่อนำเงินมาช่วยผ่อนชำระหนี้ให้กับที่บ้าน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตทางการเงินอันแสนเจ็บปวด

ในตอนนั้นผมทำเรื่องโง่ๆ ด้วยความไม่รู้ 2 เรื่องด้วยกัน คือ

1. ผมกู้ยืมเงินโดยใช้เครดิตส่วนตัว เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ธุรกิจของที่บ้าน กู้ไปเรื่อยๆ จากสินเชื่อส่วนบุคคลไปจนถึงบัตรเครดิต กู้เสียจนเครดิตตัวเองพัง สุดท้ายหนี้ที่บ้านลดลงไปได้ไม่เท่าไหร่ ในขณะที่หนี้สินส่วนตัวเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน ทั้งหมดเป็นเพราะผมแยกไม่ออกว่า หนี้ธุรกิจ กับ หนี้ส่วนตัว ต่างกันอย่างไร

คิดง่ายๆ แค่อยากหาเงินมาช่วยเหลือที่บ้าน โดยการเอาเครดิตทางการเงินของตัวเองไปผูกกับธุรกิจที่กำลังจะล้มละลาย

2. ผมยื่นขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งต้องมีภาระผ่อนยาว 2-3 ปี เพื่อนำเงินที่ได้มาผ่อนชำระหนี้ธุรกิจเพียงเดือนเดียว (งวดเดียว) ซึ่งกู้แต่ละครั้งทำให้ต้องเป็นหนี้ไปอีกสอง สาม ปี แล้วเดือนหน้าก็ต้องกู้อีก

ที่แย่ คือ แทนที่จะทำผิดครั้งเดียวแล้วคิดได้ ผมกลับทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะฉุกคิด กว่าจะรู้สึกตัว ผ่านไป 4 เดือน ผมติดหนี้สถาบันการเงิน 4 แห่ง รวมๆ กันแล้วเป็นหนี้หลักล้าน

โง่!!!  ดีไหมครับ?

เริ่มจากการเป็นหนี้ธุรกิจ ผมพาตัวเองเข้าไปสู่วงจรหนี้ หมุนเงินจนตึงไปหมด คิดอะไรไม่ออก โจทย์ในหัวมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือ หาเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทำงานเพื่อเงินให้มากขึ้น แลกเวลาไปกับเงิน และถ้าจนแล้วยิ่งกู้ ก็ยิ่งเหมือนกับยิ่งออกแรงดึงเชือกที่มัดอยู่รอบคอให้แน่นขึ้นไปอีก จนวันหนึ่งก็ไม่สามารถกู้อะไรได้อีก เพราะเครดิตทางการเงินพังย่อยยับไปหมดแล้ว

นี่คือ เรื่องจริง ที่เล่นเอง เจ็บจริง แบบไม่มีสตันท์แมน ตัวแสดงแทน

วงจรความคิดเดิมๆ ที่เชื่อว่า เงินแก้ปัญหาเรื่องเงิน ยุติลงเมื่อนายธนาคารคนหนึ่งด่าผมว่า โง่!!! ซึ่งก็จริงของเขา แต่ด้วยอีโก้ที่ยอมให้ใครว่าไม่ได้ จึงเริ่มต้นค้นหาความรู้ทางการเงิน แล้วก็พบความจริงที่ว่า

เงินแก้ปัญหาทางการเงินได้เพียงชั่วคราว แต่ ความรู้ทางการเงินจะจัดการปัญหาให้เราได้ตลอดชีวิต

ด้วยเหตุนี้ คนที่แก้ปัญหาหนี้ด้วยการก่อหนี้เพิ่ม หรือกู้เงินมาใช้หนี้จึงไม่มีทางหลุดออกจากวงจรแห่งทุกข์

เอาแค่เรื่อง หนี้ ที่เรากำลังคุยกันอยู่ ก็สร้างผลลัพธ์ทางการเงิน ที่แตกต่างให้กับคนที่รู้และไม่รู้ ได้ราวฟ้ากับเหวแล้ว

คนทั่วไปใช้ หนี้ เป็นยาพิษทำลายสุขภาพทางการเงินของตัวเองด้วยการใช้มันไปกับสิ่งที่ทำให้พวกเขาจนลง ก่อหนี้ในสิ่งที่ทำให้เงินไหลออกจากกระเป๋า ของพวกเขาทุกเดือน อาทิเช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล เงินผ่อนสินค้าอุปโภค บริโภค กู้ซื้อรถยนต์ เป็นต้น

คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับหนี้ประเภทนี้ ซึ่งผมเรียกมันว่า หนี้จน ยิ่งคนเรามีหนี้จนมากเท่าไร เราก็ยิ่งจนลงมากเท่านั้น คนที่มีภาวะหนี้สิน ล้นพ้นตัว ถังแตก ล้มละลาย ก็ล้วนแล้วแต่ เกิดจากหนี้ประเภทนี้ด้วยกันทั้งสิ้น

ด้วยเหตุที่คนส่วนใหญ่รู้จักแต่ หนี้จน และมีภาพในความทรงจำที่ไม่สวยงามกับหนี้ประเภทนี้ เลยมีกลุ่มคนบางกลุ่มปฏิเสธการเป็นหนี้ในทุกกรณี เพราะคิดว่า การไม่มีหนี้ คือ ลาภอันประเสริฐ ทั้งที่จริงแล้ว การไม่ก่อหนี้เลย อาจเป็นการปิดโอกาสทางการเงินของตัวเองก็เป็นได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อหนี้ที่เป็น หนี้รวย หรือ หนี้เพื่อการลงทุนในทรัพย์สิน ซึ่งทำให้เงินไหลเข้ากระเป๋าของพวกเขาเป็นประจำทุกเดือน อาทิเช่น กู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ หรือบ้านเช่า เป็นต้น

การก่อหนี้รวย เป็นรูปแบบหนึ่งของพลังทวีขั้นสูงสุด เพราะเป็นการใช้เงินของคนอื่น (Other People’s Money - OPM) เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวคุณเองได้ เป็นการขยายโอกาส และทำให้คุณไปถึงจุดหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น

นี่คือตัวอย่างของความแตกต่างทางความรู้ที่ผมอยากเล่าให้คุณฟัง

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เจ็บปวดจากหนี้ มากสักแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับคุณก็คือ หนี้ ไม่เคยเป็นตัวปัญหา ตัวปัญหาที่แท้จริง คือ ตัวเราเองนั่นแหละ!!!

เมื่อเป็นหนี้ จงเรียนรู้จากหนี้ พลิกโอกาสจากวิกฤติ อย่าโทษหนี้ เพราะหนี้ยังมีหนี้จน และ หนี้รวย เราจนเพราะเราเลือกก่อหนี้จน คนที่พลาดแล้วโทษแต่คนอื่นจะไม่มีวันเติบโต เพราะพวกเขาไม่ได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดเลย

ความผิดพลาด คือ จุดเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้

 

 

https://www.insurance365d.com/



 


รับสมัครนักธุรกิจ นายหน้าตัวแทนขายประกันรถ ประกันภัย

คุณรักษ์รัศมี หรือ คุณธีรศักดิ์ พจนานุภาพ
โทร. 063-942-3665  หรือ  064-789-3563
E-Mail : insurance365d@gmail.com
รหัสสมาชิกธุรกิจ MGM ศรีกรุงโบรคเกอร์ : AM00063244

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้